วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business)

ปัจจุบันยังมีความสับสนระหว่าง คำว่า E-Business กับ E-Commerce คำว่า E-Business ( เขียนอีกแบบก็คือ eBusiness ) นั้นย่อมาจากคำว่า Electronic Business หรือ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ความหมาย คือ กระบวนการหรือขั้นตอนใด ๆ 
       ในการดำเนินธุรกิจ (transaction) ที่อาศัยระบบคอมพิวเตอร์สารสนเทศในการดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลทางธุรกิจ 
        E-Business นั้นมีจุดมุ่งหมายหลักที่จะสร้างคุณค่าเพิ่ม (Added Value) ตลอดกระบวนการหรือกิจกรรมทางธุรกิจ (Value Chain) และลดขั้นตอนของการที่ต้องอาศัยแรงงานคน (Manual Process) มาใช้แรงงานจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (Computerized Process) และช่วยให้การดำเนินงานภายใน ภายนอก และระหว่าง องค์กรด้วยกัน 
       ฉะนั้น E-Commerce จึงเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของ E-Business ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของอีกตัวอย่างหนึ่งของการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ก็คือ เครื่องฝากเงินอัตโนมัติของธนาคาร (Cash Deposit Machine) ทุกวันนี้ เครื่องโอนเงินชนิดนี้ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องคอยต่อแถวฝากเงินเหมือนสมัยก่อนและยังช่วยธนาคารสามารถรับลูกค้ารายอื่น ๆไม่ใช่มาฝากเงินได้มากขึ้น หรือแม้แต่ E-Revenue ของ กรมสรรพากร ที่ช่วยพี่น้องประชาชนไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานของกรมสรรพากรเพื่อยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเหมือนก่อน เพียงเข้าไปที่เว็บไซด์ E-Revenue ของกรมสรรพากร ก็สามารถยื่นแบบฯได้แล้วและยังขอคืนเงินภาษีได้อีกด้วย ก็ถือว่าเป็น การทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เช่นกัน 
ประโยชน์ที่ได้รับของการปฏิรูปธุรกิจแบบเก่ามาสู่ E-Business 
        •เพิ่มความสะดวกสบายและความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า: ลูกค้ามีศักยภาพในการค้นสินค้าที่ต้องการ, รู้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาในการจัดจำหน่ายทันที, จำนวนสินค้า รู้สถานะภาพของสินค้าที่สั่งเช่น กำลังผลิตอยู่ กำลังส่งของ ระยะเวลาที่ลูกค้าที่รับของที่แน่นอน 
        •เพี่มความรวดเร็วและถูกต้องในการดำเนินงานธุรกิจ: การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเครือข่าย และเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถลดขั้นตอน 
        •เพิ่มความรวดเร็วและถูกต้องในการทำงานขององค์กร 
        •ลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ: การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเครือข่าย และเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารเช่นค่าแฟกซ์ และค่าโทรศัพท์ทางไกล,ลดค่าใช้จ่ายในการแก้ไขการทำงานที่ผิดพลาดและซ้ำซ้อน, และลดค่าใช้จ่ายของสำนักงานเช่น กระดาษ จดหมาย เป็นต้น
        •เพิ่มช่องทางในการขยายตลาด: ระบบร้านค้า Online สามารถทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าหรือบริการได้ตลอด24 ชั่วโมง จากสถานที่ทั่วโลก (Anywhere anytime) 
        •เพิ่มความได้เปรียบกับคู่แข่งทางการค้า: รูปแบบการดำเนินงานธุรกิจแบบ อี-บิสเน็ต จะสามารถเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าและมีช่องทางในการเข้าหาลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าลูกค้าของบริษัทจะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้การทำธุรกิจแบบ อี-บิสเน็ต สามารถช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และถูกต้อง ในการทำงานขององค์กร จึงนับได้ว่า อี-บิสเน็ต เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน 
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ E-Business 
BI = Business Intelligence
        การรวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านตลาด ข้อมูลลูกค้า และ คู่แข่งขัน 
EC = E-Commerce
        เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้เกิดการสั่งซื้อ การขาย การโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ต 
CRM = Customer Relationship Management
        การบริหารจัดการ การบริการ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจกับทั้งสินค้า บริการ และ บริษัท – ระบบ CRM จะใช้ไอทีช่วยดำเนินงาน และ จัดเตรียมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการบริการลูกค้า 
SCM = Supply Chain Management
        การประสาน ห่วงโซ่ทางธุรกิจ ตั้งแต่แหล่งวัตถุดิบ ผู้ผลิต ผู้จัดส่ง ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก จนถึงมือผู้บริโภค 
ERP = Enterprise Resource Planning
        กระบวนการของสำนักงานส่วนหลัง และ การผลิต เช่น การรับใบสั่งซื้อการจัดซื้อ การจัดการใบส่งของ การจัด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น